Thursday, February 15, 2007

ประวัติความเป็นมา

มาตรฐาน IEEE 802.16 โดยมีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า Wireless Metropolitan Area Network (WMAN) เริ่มมีแนวความคิดมาตั้งแต่ปี 2002 ที่เกิดจากการรวบรวมวิศวกรระดับสุดยอด มากำหนดมาตรฐานให้กับการสื่อสารไร้สายให้เป็นลำดับขั้นต่างๆ เช่น 802.11a, b/g (WLAN) ที่เราคุ้นกับคำเรียกที่ว่า Wi-Fi กันมากกว่า 802.15 สำหรับเครือข่ายการสื่อสารส่วนบุคคล (PAN) ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน อย่าง Bluetooth จนมาถึงมาตรฐานที่กำลังจะมีให้ใช้งานอย่าง IEEE 802.16 ที่มีการตั้งคอนเซปต์เอาไว้ว่า First miles/Last miles ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไร้สายที่เชื่อมต่อไปยังผู้ใช้งานได้ในระยะไกลถึง 40 กิโลเมตรตามทฤษฎี สำหรับการใช้งานอยู่กับที่ ทำให้ขจัดปัญหาการสื่อสารแบบเก่าๆ ที่ต้องรอสายเคเบิลเข้าไปติดตั้ง และค่าเช่าสาย lease line ที่มีราคาแพง ส่วนการใช้งานในลักษณะเคลื่อนที่ก็จะได้ระยะไกลเพียง 3-5 กิโลเมตร เนื่องมาจากการเกิดเทคโนโลยี Wi-Fi ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งตามสถานที่สำคัญๆ สำนักงาน ที่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ถ้าบริษัทจะวางระบบเน็ตเวิร์กใหม่ ก็คงนึกถึงระบบเน็ตเวิร์กไร้สายก่อนเป็นอันดับแรก หรือแม้แต่ผู้ใช้ตามบ้านก็ตาม เทคโนโลยี IEEE 802.16 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น สามารถที่จะต่อเชื่อมกันระหว่าง IEEE 802.11b/g และ IEEE 802.16 ได้เลยครับ เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่สามารถแปลงค่าสัญญาณที่ได้รับจากผู้ให้บริการบนพื้นฐาน IEEE 802.16 เชื่อมต่อเข้าไปยัง Wi-Fi เพียงแค่นี้ก็มีอินเทอร์เน็ตและระบบเน็ตเวิร์กใช้งานกันแล้ว ส่วนค่าบริการของ IEEE 802.16 ก็อยู่ในราคาย่อมเยาว์ไม่แพงเกินไป ทำให้ผู้ใช้งานในบริเวณที่เทคโนโลยีนี้มีสัญญาณไปถึง สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลาย ทำให้ต้นทุนลดลงค่าบริการก็ลดลงด้วย อีกทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ก็พัฒนาจาก platform เดิมๆ แค่ผู้ผลิตแก้ไขอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเพียงไม่กี่ชิ้น พัฒนาตัวรับส่งสัญญาณออกมาใหม่ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว ที่มา : Pantip.com แต่ต้องขอแสดงความเสียใจคนไทยกับเทคโนโลยีตัวนี้ เมื่อกทช.ไม่อนุมัติคลื่นความถี่ให้มีการทดสอบ WiMax ในไทยระยะนี้ ถือขณะนี้ประเทศไทยเราด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านเราไม่ว่า เวียตนาม กัมพูชา ลาว สิงคโปร ที่มีการอนุมัติคลื่นความถี่และมีการทดสอบเทคโนโลยีตัวนี้ไปแล้ว

ความหมาย

เป็นระบบเครือข่ายระดับเมือง คือมีการเชื่อมโยงกันในพื้นที่ ที่กว้างไกลกว่าระบบ LAN คืออาจจะเชื่อมโยงกันภายในจังหวัด โดยจะต้องมีการใช้ระบบเครือข่ายขององค์การโทรศัพท์หรือองค์การสื่อสารแห่งประเทศไทย
เป็นระบบเครือข่ายระดับเมือง คือมีการเชื่อมโยงกันในพื้นที่ ที่กว้างไกลกว่าในระบบ LAN คืออาจจะเชื่อมโยงกันภายในจังหวัด โดยจะต้องมีการใช้ระบบเครือข่ายขององค์การโทรศัพท์หรือองค์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จะมีลักษณะการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่มีระยะห่างไกลกันในช่วง 5-40 กิโลเมตร ผ่านสายสื่อสารประเภทต่าง ๆเช่น เส้นใยแก้วนำแสง สายเคเบิลหรือสายโคแอกเชียล แต่ส่วนใหญ่การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายมหานคร ต้องการความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูง โดยที่การสื่อสารนั้นจะจำกัดภายในบริเวณเขตตัวเมือง หรือเขตมหานคร

หลักการทำงาน

เป็นเครือข่ายที่มีขนาดอยู่ระหว่าง LAN และ WAN คือเป็นระบบเครือข่ายที่ใช้ภายในเมืองใหญ่ เช่น เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงภายในเขตเมือง หรือในย่านธุรกิจ ปกติจะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างตึกต่างๆ ด้วยการเชื่อมโยงความเร็วสูงผ่านสายใยแก้วนำแสง และเป็นระบบเครือข่ายสาธารณะที่สามารถทำการเช่าใช้งานจากผู้ให้บริการได้ทันที
MAN ( Metropolitan Area Network )ระบบเครือข่ายระดับเมือง เป็นเน็ทเวิร์กที่ต้องใช้โครงข่ายของการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็นการติดต่อสื่อสาร กันในเมืองหรือในระดับ LAN to LAN
ระบบเครือข่ายบริเวณเมืองใหญ่ (MAN : Metropolitan Area Network) เป็นระบบที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ซึ่งอาจตั้งอยู่ห่างไกลกันในช่วง 5 ถึง 50 กิโลเมตร ผู้ใช้ระบบเครือข่ายแบบนี้มักจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่จำเป็นจะต้องติดต่อสื่อสารข้อมูลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ด้วยความเร็วสูงมาก โดยที่การสื่อสารนั้นจำกัดอยู่ภายในบริเวณเมืองสื่อที่ใช้ในการส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายจะต้องมีสื่อที่ใช้ในการเชื่อมต่อสถานีงานต่างๆ ในเครือข่ายเข้าด้วยกัน เพื่อส่งข้อมูล ซึ่งสื่อเหล่านี้จะมีหลายแบบให้เลือกใช้ โดยแต่ละแบบเองก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันออกไปตามแต่ว่าจะพิจารณาโดยยึดราคา หรือศักยภาพเป็นเกณฑ์

ข้อดี

ข้อดี - ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวางสายสัญญาณมากนัก สามารถขยายระบบได้ง่าย เสียค่าใช้จ่ายน้อย ซึ่งถือว่าระบบบัสนี้เป็นแบบโทโปโลยีที่ได้รับความนิยมใช้กันมากที่สุดมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เหตุผลอย่างหนึ่งก็คือสามารถติดตั้งระบบ ดูแลรักษา และติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ง่าย ไม่ต้องใช้เทคนิคที่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก
ข้อดี การติดตั้งเครือข่ายและการดูแลรักษาทำได้ง่าย ถ้าหากมีเครื่องใดเกิดความเสียหาย ก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายและศูนย์ กลางสามารถตัดเครื่องที่เสียหาย ออกจากการสื่อสารในเครือข่ายได้เลย โดยไม่มีผลกระทบกับระบบเครือข่าย
ข้อดีติดตั้งและดูแลง่าย แม้ว่าสายที่เชื่อมต่อไปยังบางโหนดจะขาด โหนดที่เหลืออยู่ก็ยังจะสามารถทำงานได้ ทำให้ระบบเน็ตเวิร์กยังคงสามารถทำงานได้เป็นปกติ การมี Central node อยู่ตรงกลางเป็นตัวเชื่อมระบบ ถ้าระบบเกิดทำงานบกพร่องเสียหาย ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่า

ข้อเสีย

ข้อเสียเสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งในด้านของเครื่องที่จะใช้เป็น central node และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสายเคเบิลในสถานีงาน
ข้อเสีย เสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งในด้านของเครื่องที่จะใช้เป็น เครื่องศูนย์กลางหรือตัวฮับเอง และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสายเคเบิลในเครื่องอื่น ๆ ทุกเครื่อง การขยายระบบให้ใหญ่ขึ้นทำได้ยาก เพราะการขยายแต่ละครั้งจะต้องเกี่ยวเนื่องกับเครื่องอื่นๆ ทั้งระบบ
ข้อเสีย - อาจเกิดข้อผิดพลาดง่าย เนื่องจากทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ ต่อยู่บนสายสัญญาณเพียงเส้นเดียว ดังนั้นหากมี สัญญาณขาดที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ก็จะทำให้เครื่องบางเครื่อง หรือทั้งหมดในระบบไม่สามารถใช้งานได้ตามไปด้วย